ประเทศไทย สหกิจศึกษา (Cooperative Education) ได้เริ่มเข้ามาครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2536 โดยศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน เป็นผู้นำระบบสหกิจศึกษาเข้ามาและได้บัญญัติศัพท์คำว่า “สหกิจศึกษา” ขึ้น โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่นำระบบสหกิจศึกษามาใช้ ต่อมาแนวคิดดังกล่าวขยายไปยังมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทายลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จนกระทั่งในปีการศึกษา 2545 รัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยในขณะนั้น ได้ประกาศนโยบายให้การสนับสนุนด้านงบประมาณแก่สถาบันอุดมศึกษาที่จัดสหกิจศึกษา โดยได้เริ่มโครงการพัฒนาสหกิจศึกษาในลักษณะโครงการนำร่อง ซึ่งมีสถาบันอุดมศึกษา 17 แห่ง องค์กรผู้ใช้บัณฑิต 257 แห่ง และนักศึกษา 679 คน เข้าร่วมโครงการ และได้ขยายผลโครงการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง นับแต่นั้นมาสหกิจศึกษาได้ขยายอย่างรวดเร็วสู่ระดับชาติโดยรัฐบาลได้ก้าวเข้ามา
สนับสนุนผ่านทบวงมหาวิทยาลัย โดยมีสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นหน่วยงานหลักกำหนดกลยุทธ์ มาตรการ แผนการดำเนินงานโครงการและกิจกรรมสำหรับส่งเสริมสนับสนุน และได้ตั้งเครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภูมิภาคขึ้น 9 เครือข่าย ได้แก่
1) เครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคเหนือตอนบน
2) เครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคเหนือตอนล่าง
3) เครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
4) เครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
5) เครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคตะวันออก
6) เครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคกลางตอนบน
7) เครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคกลางตอนล่าง
8) เครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคใต้ตอนบน
9) เครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคใต้ตอนล่าง
ปัจจุบันการดำเนินงานสหกิจศึกษาได้พัฒนาเข้าสู่ลักษณะพหุภาคี โดยมีหน่วยงานหลายภาคส่วนเข้ามามีบทบาทในการดำเนินงาน และมีความสำคัญมากขึ้นในสถาบันอุดมศึกษาที่ใช้สหกิจศึกษาเป็นทางเลือกในการจัดการศึกษาและจากการสำรวจข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาในปร 2554 พบว่ามีสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 108 แห่ง องค์กรผู้ใช้บัณฑิต จำนวน 12,962 แห่ง มีนักศึกษา 26,048 เข้าร่วมโครงการสหกิจศึกษา (สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา : 2554)